วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

มึนเช่นกลัดบัค เปิดบ้านถล่มยับ เบรเมน 3-1


พาทริค แฮร์มันน์ จอมทัพ มึนเช่นกลัดบัค โชว์ฟอร์มร้อนแรงหลังเหมาคนเดียว 2 ประตู แม้ทีมต้องมาเหลือ 10 คนช่วงท้ายแต่ไม่มีปัญหา เปิดบ้านเชือด “นกนางนวล” เบรเมน 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 25 คะแนน ยึดจ่าฝูงทิ้งห่าง 4 แต้ม ในศึกฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน คืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
สนาม : โบรุสเซีย พาร์ค
มึนเช่นกลัดบัค จ่าฝูงของตารางยังไม่มี รัฟฟาเอล, บรีล เอ็มโบโล่ และ โทนี่ ยันท์ชเค่ ที่เจ็บทั้งหมด สามแนวรุกวาง พาทริค แฮร์มันน์, อลาสซาน เพลอา และ มาร์คุส ตูราม
ฝั่ง “นกนางนวล” เบรเมน ชวดใช้งาน ลุดวิก ออกุสตินสัน,ฟิน บาร์เทิ่ลส์ และ นิคลาส มอยซานเดอร์ ที่เจ็บทั้งหมด แนวรุกนำมาโดย มิลอต ราชิชา และ ยูยะ โอซาโกะ กองหน้าทีมชาติญี่ปุ่น
ครึ่งแรกเริ่มมา 20 นาที เจ้าถิ่นออกนำ 1-0 ลาสซ์โล่ เบเนส เปิดฟรีคิกโค้งมาให้ รามี่ เบนเซไบนี่ เติมมาโหม่งเข้าไปตุงตาข่าย อีกสองนาทีต่อมา กลัดบัค หนีเป็น 2-0 มาร์คัส ตูราม โหม่งต่อให้ พาทริค แฮร์มันน์ วิ่งมาแปด้วยขวาเข้าไป ขยับมานาที 27 เบรเมน น่าจะได้ประตูตีไข่แตกหลังจาก ยูยะ โอซาโกะ หลุดเข้าไปยิงตุงตาข่าย
แต่หลังจากผู้ตัดสินไปดูวีเออาร์ปรากฏว่ามิลอต ราชิชา ไปทำฟาลว์ เดนิส ซากาเรีย ก่อนจึงไม่ให้ประตู ท้ายครึ่งแรกนาที 36 “สิงห์หนุ่ม” เกือบได้เพิ่ม มาร์คัส ตูราม ไหลให้ รามี่ เบนเซไบนี่ เติมมาอัดด้วยซ้ายเช็ดคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
จบครึ่งแรก มึนเช่นกลัดบัค นำ เบรเมน อยู่ 2-0
ครึ่งหลัง ผ่านมานาที 52 เบรเมน มาได้จุดโทษหลังจากผู้ตัดสินไปดูวีเอวาร์แล้วชี้ว่า รามี่ เบนเซไบนี่ ไปดึง ธีโอดอร์ เกเบร เซลาสซี่ แต่ทาง ดาวี่ คลาสเซ่น ยิงไปติดเซฟ ยานน์ ซอมเมอร์ อย่างน่าเสียดาย ต่อมานาที 59 กลัดบัค นำห่างเป็น 3-0 เดนิส ซากาเรีย ไหลไปให้ พาทริค แฮร์มันน์ กดด้วยขวาเข้าไปเด็ดขาด
ขยับมานาที 68 กลัดบัค ยังได้โอกาสจากลูกฟรีคิกของ พาทริค แฮร์มันน์ แต่ยังไปติดเซฟของ ยิรี พาฟเลนก้า ท้ายเกมนาที 87 เจ้าถิ่นเหลือ 10 คนหลังจาก รามี่ เบนเซไบนี่ โดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกไป ช่วงทดเจ็บ ทีมเยือนได้ประตูตีไข่แตก 3-1 จากลูกยิงของ เลโอนาร์โด้ บิทเท่นคอร์ท หลังจากนั้นทำอะไรกันไม่ได้
จบเกม มึนเช่นกลัดบัค เปิดบ้านถล่ม เบรเมน 3-1

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
มึนเช่นกลัดบัค ยานน์ ซอมเมอร์ – สเตฟาน ไลเนอร์, มัทธิอัส กินเทอร์, นิโค่ เอลเวดี้, รามี่ เบนเซไบนี่ – คริสโตฟ คราเมอร์, ลาสซ์โล่ เบเนส, เดนิส ซากาเรีย – พาทริค แฮร์มันน์, อลาสซาน เพลอา, มาร์คุส ตูราม
เบรเมน ยิรี พาฟเลนก้า – ธีโอดอร์ เกเบร เซลาสซี่, โอเมอร์ โทพรัค,  มิลอส เวลโควิช, มาร์โค ฟริเดิล – มาริโอ เอ็กเกชไตน์, นูริ ซาฮิน, ดาวี่ คลาสเซ่น – เลโอนาร์โด้ บิทเท่นคอร์ท, ยูยะ โอซาโกะ, มิลอต ราชิชา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น