วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2562

หงส์แดง บินบุกรังแบ่งแต้ม ปีศาจแดง 1-1

ลิเวอร์พูล บุกมาแบ่งแต้ม แมนฯยูไนเต็ด 1-1 แม้จะหยุดสถิติชนะรวดไว้แค่ 8 นัดซีซั่นนี้ และรวม 17 นัดนับแต่ซีซั่นก่อน ทว่า “หงส์แดง” ยังยืดสถิติไร้พ่ายในลีกซีซั่นนี้ต่อไป หลังลงแข่ง 9 นัด รั้งจ่าฝูงด้วยการมี 25 คะแนน นำอันดับสอง “เรือใบสีฟ้า” 6 แต้ม ขณะที่ลูกทีมของ โซลชา ชวดโอกาสคว้าชัยหนแรกในรอบ4เกมมีเพิ่มเป็น 10 คะแนน อยู่อันดับ 13
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2562 แมนฯ ยูไนเต็ด 1 – ลิเวอร์พูล 1
 สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
แมนฯ ยูไนเต็ด มี ดาบิด เด เคอา ยืนเป็นปราการด่านสุดท้ายได้เหมือนเดิม หลังมีอาการเจ็บต้นขามาจากการรับใช้ทีมชาติสเปน แต่ไม่มี ปอล ป็อกบา ที่ข้อเท้ายังเดี้ยงตามคาด ส่วน อารอน วาน-บิสซาก้า ผ่านความฟิตพร้อมลงเล่นทางกราบขวา
ลิเวอร์พูล ได้ อลีสซง เบ็คเกอร์ นายทวารมือ 1 กลับมาเฝ้าเสาเป็นนัดแรกตั้งแต่เจ็บน่องระหว่างนัดเปิดฤดูกาลที่ชนะ นอริช ซิตี้ 4-1 เมื่อวันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม ที่ผ่านมา ขณะที่ โฌแอล มาติป ก็ฟิตทันหวนคืนแนวรับ แต่ไม่มี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ที่ยังเจ็บข้อเท้า ทำให้ ดิว็อค โอริกี้ ได้ลงเล่นในแผงรุกแทน

เปิดฉากครึ่งแรก เจ้าบ้านพยายามลำเลียงเกมรุกบุกใส่ แต่กลายเป็น “หงส์แดง” ได้ทักทายก่อน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ไหลให้ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ลองส่องไกลนอกเขตโทษด้วยเท้าขวาแต่เบาไป เด เคอา รับสบายในนาทีที่ 13 ทีมเยือนเริ่มครองบอลบุกต่อเนื่อง แต่ยังหาจังหวะจบไม่ถนัดถนี่ ขณะที่เจ้าถิ่นอาศัยเกมโต้กลับด้วยการวางบอลยาวให้กองหน้า แต่ก็ยังไม่ทะลุแนวรับ ลิเวอร์พูล ที่ยังคงเหนียวแน่น นาทีที่ 25 “ปีศาจแดง” ได้ลุ้น อันเดรียส เปเรยร่า จ่ายให้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ได้ซัดนอกเขตโทษ แต่เบาไป อลีสซง คว้าไว้ทัน ซาดิโอ มาเน่ ได้บอลกระชากเข้าหาเขตโทษจากจังหวะโต้กลับในนาทีที่ 34 ก่อนผ่านเข้ากลางให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ได้ยิงแต่ไม่เต็มเท้า ก็เลยไม่มีปัญหาสำหรับ เด เคอา จนกระทั่งนาทีที่ 36 แมนฯ ยูไนเต็ด สวนเร็ว แดเนียล เจมส์ เปิดให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด เข้าฮอสตุงตาข่าย ผู้เล่น ลิเวอร์พูล รุมประท้วง มาร์ติน แอตกินสัน ผู้ตัดสิน ว่า โอริกี้ น่าจะโดน วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ทำฟาวล์ไปก่อนแล้ว ก่อนจะมีการเช็ก วีเออาร์ สุดท้ายยังคงเป่าให้เป็นประตู เจ้าบ้านนำ 1-0
หมดครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด นำ ลิเวอร์พูล อยู่ 1-0
ครึ่งหลัง เกมผ่านไปครบหนึ่งชั่วโมง นาที 60 ฝั่ง “หงส์แดง” เปลี่ยนตัวคนแรกก่อนเลยส่ง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ลงมาเล่นแทน ดิว็อค โอริกี้ นาที 67 แฟนผีแดงได้เสียวหลังเกือบได้ลุ้นเม็ดที่สอง จากจังหวะที่ อันเดรียส เปเรยร่า ขวางบอลยาวจากขวามาซ้ายให้ แรชฟอร์ด ให้เอาบอลอย่างเนียนก่อนลากตัดกลางแล้วซัดด้วยขวานอกกรอบบอลพุ่งถากเสาแรกออกไป โอกาสยังเป็นของเจ้าถิ่น นาที 73 แอชลี่ย์ ยัง จ่ายยัดเข้ากรอบให้ เปเรยร่า เจตนาจะพลิกบอลแล้วเล่น แต่บอลยาวไปเข้าทาง เฟร็ด วิ่งมาอัดด้วยซ้ายเข้าข้างตาข่ายไป นาที 83 เฟร็ด เกมนี้ขอโชว์อีก หลังรับลูกจ่ายของ อารอน วาน-บิสซาก้า แล้วตั้งป้อมอัดด้วยซ้ายในกรอบทางด้านขวาบอลพุ่งแรงหลุดเสาไกลไปแบบได้ลุ้น แต่ไม่ถึงสองนาทีต่อมา แฟนหงส์แดงได้เฮลั่น เมื่อทีมเยือนมาไล่ตีเสมอ 1-1 สำเร็จ บอลจากด้านซ้าย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ครอสบอลมาหน้าปากประตูบอลเลย มาร์กอส โรโฮ ถึง อดัม ลัลลาน่า ตัวสำรองที่เพิ่งลงมายิงด้วยขวาเข้าไปง่ายๆ
จบเกม แมนฯยูไนเต็ด ทำได้แค่เสมอกับ ลิเวอร์พูล 1-1

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา, วิคตอร์ ลินเดเลิฟ, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, มาร์กอส โรโฮ, อารอน วาน-บิสซาก้า, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด, แอชลี่ย์ ยัง, อันเดรียส เปเรยร่า (แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ น.94), มาร์คัส แรชฟอร์ด (อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล น.84), แดเนียล เจมส์
 ลิเวอร์พูล : อลีสซง เบ็คเกอร์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (อดัม ลัลลาน่า น.71),จอร์จินโย่ ไวนัลดุม (นาบี เกอิต้า น.82), ซาดิโอ มาเน่, ดิว็อค โอริกี้ (อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน น.60) , โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น