วันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2562

ศึกบิ๊กแมตช์ ลิเวอร์พูล คว้าชัยเหนือ สเปอร์ส 2-1 แม้โดนนำ



สเปอร์ส แม้จะทำช็อกแฟนหงส์ด้วยการบุกมานำแต่ไก่โห่ แต่ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล เร่งเกมก่อนเผด็จศึกรัวสองเม็ดรวด จาก จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และจุดโทษของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ พาทีมคว้าชัย 2-1 ทำสถิติไร้พ่ายในลีกที่แอนฟิลด์ 45 แล้ว แถมชนะ 12 เกมติด พร้อมนำจ่าฝูงโดยทิ้งอันดับสองอย่าง แมนฯซิตี้ 6 คะแนน ในศึกบิ๊กแมตช์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม : แอนฟิลด์
เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ ลิเวอร์พูล ได้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ หายป่วยกลับมายืนแบ็กขวา แดนกลางส่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม คืนตัวจริง เกมรุกมาเต็มจัด โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ นำทัพ ฟาก “ไก่เดือยทอง” ภายใต้การคุมทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ปรับทัพหลายจุดส่ง  โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, แดนนี่ โรส,, แฮร์รี่ วิงค์ส และ คริสเตียน เอริคเซ่น คืน 11 คนแรก
ออกสตาร์ทครึ่งแรก มาเพียงแค่ 47 วินาทีเท่านั้น สเปอร์ส เป็นฝ่ายบุกมาขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว บอลจาก ซน ฮึง มิน ได้บอลทางซ้ายก่อนดึงจังหวะหลบ เฮนเดอร์สัน เข้าขวาข้างถนัดแล้วตะบันอัดเต็มแรงนอกกรอบบอลไปชน เดยัน ลอฟเรน ชนเสาก่อนจะกระเด้งมาเข้าหัว แฮร์รี่ เคน โขกซ้ำเข้าไป ลิเวอร์พูล ไม่รอช้าบุกหนักหวังทวงประตูคืนให้เร็ว นาที 20 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์  เปิดบอลเข้ามาจุดนัดพบ ซาดิโอ มาเน่ สลัดหนีตัวประกบมาโหม่งเหินข้ามคาน
นาที 25 เกือบได้ลุ้นเม็ดสอง หลังคริสเตียน เอริคเซ่น วิ่งมาหวดในกรอบบอลพุ่งไปเสาสอง แฮร์รี่ เคน วิ่งมาพยายามเหยียดซ้ำแต่ไม่ถึง นาที 27 หงส์แดง ชวดตีเสมอเหลิอเชื่อ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ไหลบอลเข้าช่องให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลากตัดเข้าในส่องด้วยซ้ายถูก  เปาโล กัซซานิก้า ปัดออกมาเข้าทาง ฟีร์มีโน่ ตามซ้ำเน้นๆยังถูก กัซซานิก้า ลุกมาปัดทิ้งออกไปได้อีก โอกาสต่อเนื่องของเจ้าบ้าน  เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดฟรีคิกโค้งเข้าเขตโทษ เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค โถมขึ้นโหม่งยังถูก กัซซานิก้า ผวาปัดข้ามคานออกไปได้ทัน ก่อนจบครึ่งแรก 3 นาที หงส์แดง ได้ลุ้นจากฟรีคิระยะหวังผล  เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ วิ่งมาปั่นเน้นๆไปติดกำแพงน่าเสียดาย
จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ตามหลัง สเปอร์ส 0-1
กลับลงสนามในครึ่งหลังต่อ หงส์แดง บุกกดดันหนักทันที แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เติมขึ้นมาเอาบอลแล้วเปิดลึกไปเสาไกล โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ขึ้นโหม่งกดลงพื้นถูก กัซซานิก้า ผวาปัดออกหลังไปได้ทัน นาที 48 สเปอร์ส หวิดหนีห่างเป็นสอง จากจังหวะบอลยาวเปิดขึ้นมาแล้ว ลอฟเรน ทำพลาดปล่อยบอลตกจนถูก ซน ฮึง-มิน ฉกเอาบอลไปแตะหนี อลีสซิง แล้วตวัดยิงบอลมุมแคบไปชนคานน่าเสียดาย
ถัดมา 4 นาทีกลายเป็น ลิเวอร์พูล ตามตีเสมอ 1-1 ฟ่าบินโญ่ ตักบอลเข้าเขตโทษไปแฉลบ ดาวินซอน ซานเชซ หลุดมาถึง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ยิงบอลด้วยซ้ายตกลงพื้นก่อนพุ่งเสียบเสาไกลเด็ดขาด หลังตีเสมอเจ้าถิ่นลุยหนักมากขึ้น  เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เติมเกมบุกขึ้นมาเปิดไปให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้กดในเขตโทไม่ผ่านมือ เปาโล กัซซานิก้า ที่ยืนถูกตำแหน่ง นาที 74 ลิเวอร์พูล ได้ลูกจุดโทษเมื่อ แซร์ช โอริเย่ร์ ไปเสียเหลี่ยมแหย่บอลสกัดโดนขา ซาดิโอ มาเน่ ที่บังบอลได้เปรียบ แอนโทนี่ เทย์เลอร์ ไม่ลังเลเป่าชี้เป็นจุดโทษทันที และเป็น ซาลาห์ อาสายิงเข้าไปไม่พลาด ลิเวอร์พูล พลิกแซงนำ 2-1
จบเกม ลิเวอร์พูล เก็บสามแต้มล้ำค่าตามเป้าดว้ยการเฉือนชนะ สเปอร์ส 2-1 พร้อมรักษาช่องว่างจากรองจ่าฝูง แมนฯ ซิตี้ ไว้ที่ 6 คะแนน 

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม 
ลิเวอร์พูล อลีสซง เบ็คเกอร์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เดยัน ลอฟเรน, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม (เจมส์ มิลเนอร์ น.77) , โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (โจ โกเมซ น.85), โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ (ดิว็อค โอริกี้ น.90+1) , ซาดิโอ มาเน่
สเปอร์ส: เปาโล กัซซานิก้า, แซร์ช โอริเย่ร์ (ลูคัส มูร่า น.83), โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, ดาวินซอน ซานเชซ, แดนนี่ โรส, มูสซ่า ซิสโซโก้, แฮร์รี่ วิงค์ส (ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่ น.63) , คริสเตียน เอริคเซ่น (โจวานี่ โล เซลโซ่ น.88) , เดเล่ อัลลี่, ซน ฮึง-มิน, แฮร์รี่ เคน
ผู้ตัดสิน : แอนโทนี่ เทย์เลอร์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น